
ถังดักไขมัน คืออุปกรณ์สำคัญที่ช่วยดักจับไขมัน เศษอาหาร และสิ่งปนเปื้อนต่าง ๆ ก่อนที่น้ำเสียจะถูกปล่อยลงสู่ระบบท่อระบายน้ำ การติดตั้งถังดักไขมันสามารถช่วยลดปัญหาท่ออุดตัน กลิ่นเหม็น และยังช่วยให้ระบบบำบัดน้ำเสียของบ้านหรือร้านอาหารทำงานได้ดีขึ้นอีกด้วย
ปัจจัยในการเลือกถังดักไขมัน
1. ประเภทของสถานที่ใช้งาน
บ้านพักอาศัย
โดยทั่วไปบ้านพักอาศัยจะใช้งานถังดักไขมันเบา ไม่ได้ล้างจานปริมาณมากต่อวัน จึงสามารถใช้ถังดักไขมันขนาดเล็ก (20-40 ลิตร) ที่ติดตั้งใต้ซิงก์หรือตั้งพื้นได้
ร้านอาหาร
เนื่องจากร้านอาหารมีการปรุงอาหารและล้างจานจำนวนมากต่อวัน ควรใช้ถังขนาดใหญ่ขึ้น (ตั้งแต่ 60 ลิตรขึ้นไป) หรือแบบฝังดินเพื่อรองรับน้ำเสียที่มากและต่อเนื่องทั้งวัน
2. ขนาดของถังดักไขมัน
การเลือกขนาดที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ หากขนาดถังดักไขมันเล็กเกินไปจะเต็มเร็วและต้องล้างบ่อย หรืออาจใช้งานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
บ้านทั่วไป 20–40 ลิตร
ร้านอาหารเล็ก 60–100 ลิตร
ร้านอาหารขนาดกลางถึงใหญ่ 150 ลิตรขึ้นไป หรือใช้ถังแบบฝังดิน
3. วัสดุของถังดักไขมัน
วัสดุของถังดักไขมันมีผลต่ออายุการใช้งานและความแข็งแรง
พลาสติก (PE, PVC) น้ำหนักเบา ราคาถูก เหมาะกับใช้งานเบาในบ้าน
สแตนเลส ทนทาน ไม่เป็นสนิม เหมาะกับร้านอาหารหรือผู้ที่ต้องการความคงทน
คอนกรีตเสริมเหล็ก มักใช้กับระบบฝังดินสำหรับร้านอาหารขนาดใหญ่หรือโรงแรม
4. ตำแหน่งการติดตั้ง
แบบตั้งพื้น/ใต้ซิงก์ ติดตั้งง่าย เหมาะกับบ้านหรือร้านอาหารขนาดเล็ก
แบบฝังดิน รับน้ำเสียได้มากกว่า ไม่เกะกะพื้นที่ เหมาะกับร้านอาหารหรืออาคารพาณิชย์
5. ความสะดวกในการล้างและบำรุงรักษา
ควรเลือกถังดักไขมันที่สามารถเปิดฝาและนำส่วนกรองออกมาทำความสะอาดได้ง่าย เพื่อให้การล้างถังทำได้รวดเร็วและไม่ยุ่งยาก
การเลือกถังดักไขมันให้เหมาะกับลักษณะการใช้งาน ไม่เพียงช่วยป้องกันปัญหาท่ออุดตันและกลิ่นไม่พึงประสงค์เท่านั้น แต่ยังช่วยลดต้นทุนการบำรุงรักษาระบบระบายน้ำในระยะยาวอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือร้านอาหาร การลงทุนในถังดักไขมันที่ดีจึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าอย่างยิ่ง หากคุณกำลังมองหาถังดักไขมันคุณภาพดี สามารถสอบถามเพิ่มเติมและเลือกดูผลิตภัณฑ์ถังดักไขมันทั้งหมดได้ที่ DOS Life